สวัสดีครับ วันนี้จะมาพาไปเที่ยวประเทศ Norway โดยไฮไลท์ของทริปนี้คือการปีนขึ้นไปดู Pulpit Rock แล้วก็ล่องเรือชมธรรมชาติที่เรียกว่า Fjord
โดยการเดินทางครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนเที่ยวหลังเรียนจบ เราจึงเริ่มออกเดินทางจากประเทศอังกฤษ แล้วนั่งเครื่องบินมาลงที่เมือง Stavanger โดยเราใช้เมืองนี้เป็นที่พักเพื่อไปปีนไปให้ถึง Pulpit Rock กันครับ หลังจากนั้นเราจะเดินทางโดยรถบัสไปเมือง Burgen เพื่อที่จะต่อไปยัง Olso โดยเดินทางด้วยทัวร์ Norway in a nutshell
พอมาถึง Stavanger เราก็นั่งรถบัส Flybussen จาก Airport เข้าไปยังตัวเมืองครับ ราคาอยู่ที่ 100 NOK จากนั้นก็นั่งรถบัสต่อไปยังโรงแรม เราพักกันที่ Stavanger St Svithun Vandrerhjem ซึ่งอยู่หากจากตัวเมืองนิดนึง แต่พวกเราเน้นถูกเข้าว่าครับ :) ตัวโรงแรมเป็นคล้ายๆ โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย แล้วแบ่งมาเป็นโรงแรมสองชั้น ตัวห้องก็สะดวกสบาย แถมมีอาหารเช้าให้ด้วย ชอบครับ :)
วันแรกเราไม่ได้ทำอะไรกันมาก เนืองจากรู้ตัวว่าพรุ่งนี้ ต้องตื่นเช้าเพื่อที่จะไปปีนเขาให้ทัน เลยแค่ไปเดินในเมืองเล่นๆ แล้วก็เตรียมตัวเตรียมใจ ไปลุย Preikestolen วันรุ่งขึ้น ที่ต้องเตรียมตัวก็เพราะว่า การเดินขึ้น Preikestolen เพื่อที่จะไปให้ถึง Pulpit Rock นั้น ต้องใช้เวลาเดิน ประมาณ 4 ชั่วโมง แล้วระหว่างทางเดิน ไม่มีร้านค้าเลย ทำให้พวกเราต้องเตรียมอาหาร และน้ำดื่มไปให้เรียบร้อย ตัว Preikestolen เองนั้นต้องเรียกว่าปีนไม่ยากเท่ากับภูกระดึงบ้านเรา (เทียบเอาจากความรู้สึก ผมว่าประมาณ ซัมแรกของภูกระดึงครับ) แต่ก็เหนื่อยจริงๆ นะครับ ใครจะมาปีน แนะนำให้เตรียมรองเท้าปีนเขามาให้พร้อม การเดินทางไป Preikestolen จาก Stavanger ก็ใช้เวลาพอสมควรครับ ต้องนั่งรถไปที่ท่าเรือ แล้วต่อ Ferry ไปเมือง Tau แล้วจากเมือง Tau ต้องต่อรถไป Preikestolen อีกที
เพื่อความสะดวกเราจึงซื้อตั๋วแบบเหมาจากบริษัท Boreal ซึ่งรวมทุกอย่างไว้แล้ว ก็ซื้อตั๋วได้จาก Reception โรงแรมเลยครับ นั่งรถแบบด้านบนซักพักก็จะไปถึงท่าเรือของเมือง Stavanger
จากนั้นก็ต่อเรือ Ferry ไปที่เมือง Tau พอลงจาก Ferry ก็เดินไปตามฟูงชนอ่ะครับ จะไปที่รถบัสที่จะพาพวกเราไปยังตีน Preikestolen อันนี้เป็นสภาพก่อนขึ้น Preikestolen
เวลาเดินช่วงแรกจะค่อนข้างง่ายครับ เป็นทางลาดชันขึ้นไป ช่วงนี้ก็ถือซะว่าเป็นการวอร์มร่างกายละกัน
หลังจากนั้นก็มียาก ง่ายสลับกันไป ทั้งหินตะปุ่มตะปำ
บรรไดหิน
ทางลาด
ไปจนถึงส่วนที่เป็นคล้ายๆ น้ำตกย่อมๆ ให้เราปีนขึ้นไป
ระหว่างทาง ทำเอาพวกเราเป็นคนชอบถ่ายรูปไปเลยครับ เพราะธรรมชาติเค้าสวยจริงๆ และที่สำคัญคือพวกเราเหนื่อยก็เลยหาเรื่องแวะอู้ถ่ายรูปเรื่อยๆ ;)
ด้วยความที่เค้าพยายามจะรักษาธรรมชาติไว้ให้ได้มากที่สุด ตลอดการเดินขึ้นมาจะมีป้ายบอกทางน้อยมาก เป็นที่รู้กันว่า เราจะต้องเดินตามตัว “T” ซึ่งตัว “T” เหล่านี้ก็จะเป็นแค่สีเอามาพ่นตามจุดต่างๆ กันนักท่องเที่ยวออกนอกเส้นทางครับ ลักษณะของตัว “T” ตามจุดต่างๆ ก็ประมาณนี้ครับ
หลังจากปีนมาได้เกือบ สามชั่วโมง พวกเราก็ขึ้นมาถึงยอด Preikestolen ซึ่งเป็นที่อยู่ของ Pulpit Rock ได้เห็นภาพนี้ก็หายเหนื่อยเลยครับ :D กลายเป็นตื่นเต้นแทน
ถ้าดูจากรูปจะเห็นว่า เค้าเข้าไปยุ่งกับธรรมชาติน้อยมากๆ ขนาดตรงหน้าผานั้น ยังไม่มีอะไรมากั้นเลย ทั้งๆที่ตัวหน้าผาสูงถึง 1.2 กิโลเมตร เรียกว่าเล่นเอาไม่กล้าไปยืนใกล้ๆ กันเลยทีเดียว ต้องคลานๆ เข้าไปแทน อย่างฝรั่งกลุ่มข้างล่างนี้ ต้องบอกว่าหวาดเสียวมากๆ ครับ ทั้งลมแรง ทั้งสูง เป็นประสบการณ์ที่ต้องลองไปเอง แล้วจะรู้ครับ
มองหน้าผา จากอีกมุมนึง
จริงๆ จากจุดนี้แล้วมันยังมีทางเดินขึ้นไปได้อีกครับ คราวนี้เป็นทางชันมากๆแล้ว ต้องปีนป่ายกันพอสมควร แต่ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ปีขึ้นไปถ่ายรูปนี้มาได้อีก 1 รูป แล้วก็ถอยแล้วครับ ไปต่อไม่ไหวจริง
ขอจบ Blog นี้ด้วยรูป ชมวิวรูปนี้ละกันครับ
Leave a Reply